วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

'ไทยรัฐ'ร่วมช่วย 5ล้านบาท ซับน้ำตาน้ำท่วม

มอบให้ทางมูลนิธิ อาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) เผย10เขื่อนวิกฤติ! อีก17แห่งเกิน80% กทม.หนัก26-27นี้

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสาน และภาคกลางยังวิกฤติ กว่า 10 เขื่อนนํ้าเต็มปรี่ ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ราบลุ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนโคราช ชัยภูมิ ขอนแก่น นครสวรรค์ สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สุพรรณบุรี และอุทัยธานี ต้องรับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งเพิ่มเติม ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 11 ศพ เสียหายหนัก 17 จังหวัด เมืองรถม้าลำปางต้องเจาะสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ ระบายน้ำที่เกินความจุกักเก็บ ส่งผลให้ต้องเร่งอพยพชาวบ้านท้ายเขื่อนหนีภัยน้ำท่วม "นสพ.ไทยรัฐ" ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์พี่น้องคนไทยที่ประสบอุทกภัย มอบเงิน 5 ล้านบาท สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยผู้ประสบภัยทั่วประเทศ ขณะที่ภาครัฐเร่งระดมความช่วยเหลือเข้าพื้นที่ที่ประสบภัย ด้าน "นายกฯอภิสิทธิ์" สั่งช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดเต็มที่ กทม.เตือนภัย "คนกรุง" เตรียมรับมือวิกฤติน้ำเหนือบ่า-น้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. เผยพนังและเขื่อนกั้นน้ำสามารถรับมือระดับน้ำได้สูงสุดไม่เกิน 1 เมตร เร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มเติม พร้อมเฝ้าระวังเข้มตลอด 24 ชม. ตามจุดเสี่ยงสำคัญๆ

สถานการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ทั้งภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันตกยังคงวิกฤติหนัก ขณะที่ภาครัฐและภาคเอกชนยังคงระดมสรรพกำลังขนอาหารแห้ง เครื่องยังชีพ และน้ำดื่มเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยความยากลำบาก เพราะหลายพื้นที่กระแสน้ำยังเชี่ยวกรากและมีระดับที่สูงมาก บางหมู่บ้านการช่วยเหลือก็ยังเข้าไปไม่ถึง

"อยุธยา" ท่วมหนัก 14 อำเภอ

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงคืนวันที่ 19 ต.ค. ต่อเนื่องจนถึงช่วงสายวันที่ 20 ต.ค. กรณีเขื่อนต่างๆได้เร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนคิดเป็นปริมาณน้ำ 3,300 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้นอีก 20-30 ซม. สูงกว่าแนวตลิ่ง 1-2 เมตร น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ สถานีอนามัย และโบราณสถาน ได้รับความเดือดร้อนรวม 14 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ยกเว้นเพียง อ.บางซ้าย และ อ.ลาดบัวหลวง เท่านั้น ด้านนายวิฑิต ปิ่นนิกร นายอำเภอท่าเรือ กล่าวว่า ในพื้นที่ถูกน้ำท่วม 100 เปอร์เซ็นต์ ระดับน้ำสูงเกือบ 3 เมตรทำให้เมื่อคืนวันที่ 19 ต.ค. ต้องตัดกระแสไฟฟ้าทั้งอำเภอชั่วคราว รวม 8 ตำบล 56 หมู่บ้าน 4 ชุมชน สถานที่ราชการเสียหาย 8 แห่ง มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ 10,423 ครัวเรือน วัดในพื้นที่ อ.ท่าเรือ มีทั้งหมด 43 วัด ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 34 วัด โรงเรียนมีทั้งหมด 32 โรงเรียน ถูกน้ำท่วม 21 แห่ง ถนนถูกน้ำท่วมรถวิ่งผ่านไม่ได้คือสาย 3467 (ท่าเรือ-นครหลวง) และสาย 3407 (ท่าเรือ-ภาชี)

เสริมแนวกั้นแหล่งโบราณสถาน

สำหรับวัดและโบราณสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ จากการสำรวจพบว่าอยู่ในสภาพวิกฤติ เช่นวัดธรรมารามที่มีหอพระไตรปิฎก ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี อีกเพียง 20 ซม. น้ำก็จะเอ่อล้นแนวกั้นน้ำที่ทำไว้แล้ว เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 40 นาย เร่งนำกระสอบทรายป้องกันน้ำทะลักเข้ามา เช่นเดียวกับที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร โบราณสถานป้อมเพชร หมู่บ้านโปรตุเกส และวัดพนัญเชิงวรวิหาร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำกระสอบทรายมาเสริมป้องกันน้ำที่จะทะลักเข้าท่วมแล้ว สำหรับหน้าวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ ทางกรมศิลปากรได้ทำกำแพงเขื่อนสูง 2.50 เมตร ความยาว 400 เมตร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 ตัว ขณะนี้เหลือระดับน้ำอีกเพียง 60 ซม.ก็จะเอ่อล้นเข้าท่วมวัดเช่นกัน

"สระบุรี" ช่วย 3 ชีวิตติดคาบ้าน

ส่วนพื้นที่ จ.สระบุรี ก็ประสบอุทกภัยอย่างหนัก หลังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน เพราะเกินความจุของเขื่อน ส่งผลให้น้ำปริมาณมหาศาลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในตำบลบ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี สูงถึง 3-4 เมตร ชาวบ้านนับพันคนต้องติดอยู่ในบ้าน บ้างก็ต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะในการเข้าออกหมู่บ้าน ด้านนายชาญ เกตุพุก นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลท่าลาน อ.บ้านหมอ สระบุรี ซึ่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่บ้านครัวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชาวบ้านที่นอนเฝ้าบ้านอยู่ในวงล้อมของน้ำท่วม เกิดล้มป่วย ต้องการออกมาพบแพทย์รักษา จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำเรือท้องแบนรุดเข้าไปให้การช่วยเหลือ นำตัวนางมะลิ อ่อนนุ่ม อายุ 54 ปี ที่ล้มป่วย และ น.ส.ชุติมา อ่อนนุ่ม อายุ 26 ปี ลูกสาว ออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมจนเกือบถึงหลังคา และนายยม ศรีคำวงษ์ อายุ 66 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ออกจากบ้าน ไปพักรักษาตัวที่ รพ.บ้านหมอชั่วคราว

บ้าน "ฟิล์ม-รัฐภูมิ" ท่วมถึงชั้น 2

เที่ยงวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวพร้อมหน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลเมืองเก่า ได้นำเรือท้องแบนเข้าไปส่งเสบียงและน้ำดื่มที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวของ "ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" นักร้องดังที่เพิ่งตกเป็นข่าวฉาว บริเวณหมู่ 4 ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสัก พบว่าบ้านไม้สัก 2 ชั้น ถูกน้ำท่วมสูงเกือบถึงชั้น 2 ภายในบ้านพบเพียงแมว 2 ตัว และคนดูแลอีก 1 คน ข้าวของส่วนใหญ่ถูกขนย้ายไปไว้ที่สูงแล้ว มีเรือเร็วผูกไว้ข้างบ้าน ห่างไปยังพบเจ็ตสกีของ "ฟิล์ม" ผูกโยงไว้กับโรงรถ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านที่ "ฟิล์ม" ใช้เป็นที่เก็บตัวในช่วงที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณีของ "แอนนี่ บรู๊ค" ด้วย

2 อภ.เมืองลิงลพบุรีจมบาดาล

ส่วนที่ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ฝนจะเริ่มเบาบางแล้ว ทำให้บางแห่งระดับน้ำลดลงบางส่วน ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลมาจาก จ.เพชรบูรณ์ ยังมีระดับสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ทำให้บ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล และ อ.ลำสนธิ ที่อยู่บริเวณใกล้แม่น้ำป่าสักถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1.50-2 เมตร ติดต่อกันมานาน 5 วันแล้ว โดยที่ อ.ชัยบาดาล มีชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนไร่นาพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเดือดร้อนประกอบไปด้วย ต.เกาะรัง, ต.บัวชุม, ต.หนองยายโต๊ะ, ต.ท่ามะนาว, ต.นิคมลำนารายณ์, ต.ท่าดินดำ, ต.ชัยนารายณ์, ต.ลำนารายณ์ และในพื้นที่เทศบาลตำบลลำนารายณ์ รวมบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเดือดร้อนต้องอพยพขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ยังที่ปลอดภัยกว่า 3,000 กว่าครอบครัว พื้นที่เกษตรกรรม ไร่อ้อยนาข้าวเสียหายหลายหมื่นไร่ โดยนายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำถุงยังชีพพระราชทานเข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ ต.บางกระพี้ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรีด้วย

ร่วมกตัญญูช่วยบ้านหมี่ระลอก 2

สายวันที่ 20 ต.ค. น.ส.สกาวรัตน์ สมสกุลรุ่งเรือง เลขาฯมูลนิธิร่วมกตัญญู เผยว่า ในวันที่ 21 ต.ค. นายสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผจก.มูลนิธิฯ นายวรพจน์ ศิริทรัพย์ หน.อาสาสมัครเขต บก.น.เหนือ พร้อมเหล่าศิลปินดาราและอาสาสมัครจำนวน 100 นาย พร้อมเรือท้องแบน 4 ลำ จะนำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 2,000 ชุด เข้าไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.ดงพลับ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เป็นระลอก ที่ 2 ต่อจากครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 5 วันแล้ว ชาวบ้าน 18 หมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และการช่วยเหลือในพื้นที่ก็ยังเข้าไปไม่ทั่วถึง

ชาวสระแก้วผวาเจอทั้งจระเข้-งู

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ต.ค. ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อย ทพ.1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ได้รับแจ้ง จากชาวบ้านหมู่บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตรว่าพบจระเข้ขนาดใหญ่หลุดข้ามมาจากฝั่งเขมรเข้ามากินเป็ดชาวบ้านในหมู่บ้านวังมนไปแล้วเกือบ 20 ตัว จึงนำกำลังพร้อมเรือท้องแบนเข้าไปตรวจสอบ พบนายสมชาย นนท์ไชย อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้พบจระเข้ระบุว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. คืนวันเดียวกัน ได้พายเรือออกมาหาปลาไปเป็นอาหาร ขณะพายอยู่บริเวณด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านซึ่งเป็นทุ่งนาแต่น้ำท่วมสูงจนกลายเป็นทะเลน้ำจืด พบเห็นจระเข้ลำตัวยาวกว่า 2 เมตรว่ายตรงดิ่งเข้ามาหาก่อนจะดำน้ำหายไป จึงรีบพายเรือกลับเข้าฝั่ง สอบถามคนในหมู่บ้านก็ระบุตรงกันว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นจระเข้ตัวดังกล่าวนับสิบราย แต่ยังจับไม่ได้ คาดว่าน่าจะหลุดมาจากฝั่งเขมร เพราะในหมู่บ้านไม่มีฟาร์มเลี้ยงจระเข้แต่อย่างใด ล่าสุดนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว สั่งการให้ประมงจังหวัดสระแก้วจัดชุดไล่ล่าจระเข้ตัวดังกล่าวแล้ว เวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยอรัญประเทศรับแจ้งพบงูเหลือมภายในบ้านพักตำรวจหลัง สภ.คลองลึก จึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ไปจับไว้ได้มีลำตัวยาวถึง 3 เมตร นำไปปล่อยที่ป่าช่องกำบน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว

ชาวอ่างทองช้ำล้มป่วยกันระนาว

ส่วนที่ จ.อ่างทอง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ของ  ต.บ้านอิฐ ต.บ้านรี ต.ตลาดกรวด ต.จำปาหล่อ อ.เมืองอ่างทอง และ ต.โผงเผง กับ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันที่ 20 ต.ค. โดยเทศบาลเมืองอ่างทองต้องระดมกำลังกรอกทรายใส่กระสอบสร้างคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันย่านธุรกิจในเขตเทศบาลเมืองอ่างทองอย่างเร่งด่วน ส่วนที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ซึ่งถูกน้ำท่วมเกือบเต็มพื้นที่ทั้งตำบล ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร มาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้ชาวบ้านเริ่มป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้า ผื่นคัน และโรคเครียด ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอป่าโมก ร่วมกับหน่วยกู้ชีพ รพ.ป่าโมก นำยารักษาโรคน้ำกัดเท้าและถุงดำ ตลอดจนเครื่องยังชีพลงเรือท้องแบนเข้าไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อบรรเทาปัญหาแล้ว

อุทัยฯ-สุพรรณฯอ่วมไม่แพ้กัน

ส่วนกรณีคันกั้นน้ำแม่น้ำแควตากแดด ต.เนินแจง อ.เมืองอุทัยธานี  เกิดพังทลายถึง  2  จุด  ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใน 8 หมู่บ้านของตำบลเนินแจง สูงกว่า 1 เมตร ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 20 ต.ค. ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่อท่วมถนนสาย  3220  (อุทัยธานี-โกรกพระ) ช่วงหลัก กม.ที่ 8-11 มีน้ำท่วมผิวจราจรกว่า 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ เช่นเดียวกับที่ จ.สุพรรณบุรี ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่อเค้าว่าจะเอ่อล้นภายใน 1-2 วันนี้ ทางจังหวัดสุพรรณบุรีต้องประกาศเตือนชาวบ้านใน อ.สามชุก บางปลาม้า ศรีประจันต์ สองพี่น้อง และ อ.เดิมบางนางบวช เก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปไว้ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

น้ำเหนือเอ่อล้นท่วม "ปทุมธานี"

ผู้สื่อข่าว จ.ปทุมธานี รายงานเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต ต.คลองควาย ต.สามโคก ต.กระแชง อ.สามโคก ส่วนพื้นที่ อ.เมืองปทุมธานี ถูกน้ำท่วมรวม 4 ตำบล คือ ต.บ้านฉาง ต.บ้านกลาง ต.บ้านกระแชง และต.บางปรอก อย่างรวดเร็ว โดยบางแห่งมีระดับน้ำสูงกว่า 50 ซม. ส่วนบริเวณสถานีตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเดิมทีเคยเป็นสถานีตำรวจภูธรสามโคก (เก่า) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมบริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร และลานจอดรถทั้งหมด  โดย  พ.ต.ท.วีระศักดิ์  วงศ์ป้อม สว.ตม.จ.ปทุมธานี ได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลบางเตย และกำนัน  ต.บางเตย  นำกระสอบทรายมาวางเรียงรายทำทางเดินเข้าออกเพื่อให้บริการประชาชนและชาวต่างชาติที่จะต้องเดินทางมาติดต่องานเป็นจำนวนมาก ด้านนายธานี สามารถกิจ ผวจ.ปทุมธานี เผยว่า หลังจากที่ได้มีการลงเรือตรวจบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้ถูกน้ำท่วมสูงทุกหลังคาเรือน ได้สั่งกำชับให้ทุกอำเภอ เทศบาล และ  อบต.  ที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา  ให้เร่งช่วยเหลือเป็นการด่วน  ซึ่งคาดว่าน้ำจะสูงขึ้นอีกใน  1-2  วันนี้

"นนทบุรี" พร้อมรับมือน้ำเหนือ

วันเดียวกัน ที่วัดค้างคาว ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรีพล.ท.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก นำกำลังพลเข้าช่วยเหลือในการบรรจุทรายใส่กระสอบเพื่อวางเป็นแนวกั้นป้องกันน้ำท่วม เตรียมความพร้อมรับมือปริมาณน้ำเหนือที่จะไหลบ่ามาถึงจังหวัดนนทบุรีในวันที่ 22-23 ต.ค.นี้ ด้านนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี ได้นั่งเรือออกตรวจพื้นที่ตลอดแนวสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าทุกพื้นที่เสี่ยง ได้มีการนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งเตรียมพร้อมไว้แล้วทุกจุด ขณะที่นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวว่า ตอนนี้ทางเทศบาลนครนนทบุรีได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ เช่น ประตูน้ำ หมู่บ้าน ในเขตรับผิดชอบ รวมทั้งได้มีการนำเอากระสอบทรายเสริมกั้นเป็นแนวเขื่อน และติดตามความเคลื่อนไหวของปริมาณน้ำตลอดเวลา เชื่อว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำทางเทศบาลสามารถรับมือกับปัญหาน้ำเอ่อล้นได้อย่างแน่นอน

เมืองย่าโมยังท่วมหนักหลายพื้นที่

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.  ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า  ยังคงขยายวงกว้าง เช่นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติกำลังประสบกับปัญหาน้ำในลำน้ำมูลเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ 5 ตำบล ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกว่า 2,000 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำท่วมอยู่ตั้งแต่ 50 ซม. ไปจนถึง 2 เมตร  นอกจากนี้ปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำมูลยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมถนนสายนครราชสีมา-จักราช บริเวณช่วงปากทางเข้าตัวอำเภอเฉลิมพระเกียรติสูงกว่า 50 ซม.  เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร  ทำให้รถยนต์เล็กไม่สามารถสัญจร ผ่านไปมาได้ ส่งผลให้การจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกติดขัดอย่างหนัก  ประชาชนกว่า 200 ชีวิต  ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไม่สามารถออกจากบ้านเรือนได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลท่าช้าง ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำมูลถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ประชาชนบางส่วนต้องขนย้ายข้าวของและสัตว์เลี้ยงออกมาอาศัยอยู่ริมถนนด้วยความยากลำบาก  ขณะที่ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือด้วยการตั้งศูนย์อพยพผู้ประสบภัยอยู่ที่โรงเรียนท่าช้างราษฎร์บำรุง  โดยมีการเตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  ส่วนประชาชนที่ยังคงติดอยู่ภายในหมู่บ้าน  ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้นำรถยีเอ็มซีมาคอยให้บริการรับส่งและนำอาหารน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ติดอยู่ภายในหมู่บ้านและไม่ ประสงค์ที่จะอพยพมาอยู่ยังศูนย์อพยพที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้

โคราชระทมทุกข์ภัยน้ำ 2.5 แสนคน

ทางด้านศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติจำนวนทั้งสิ้น 30 อำเภอ 292 ตำบล 1,957 หมู่บ้าน ประชากร ได้รับความเดือดร้อนกว่า 2.5 แสนคน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ประกอบด้วย อำเภอด่านขุนทด 2 ราย อ.สูงเนิน 1 ราย และอำเภอปักธงชัย 1 ราย และล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ชื่อนายผดุงศักดิ์ มุสิกะ อายุ 54 ปี เป็นชาวบ้าน ต.ตลาด อ.เมืองนครราชสีมา  ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดจมหายตั้งแต่เย็นวันที่ 19 ต.ค.  ไปพบศพในพื้นที่หมู่ 4 ต.จอหอ  ระดับน้ำท่วมสูง 1.50 เมตร  สำหรับถนนสายหลักในจังหวัดได้รับความเสียหายรวม 8 สาย  พื้นที่การเกษตรเสียหายไม่น้อยกว่า 8 แสนไร่ โดยสถานการณ์ที่วิกฤติยังคงอยู่ที่เขตอำเภอเมือง อ.ปักธงชัย และ อ.ด่านขุนทด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มที่จะทรงตัวและลดความเสียหายลงบ้างแล้ว แต่มีพื้นที่ที่กำลังประสบความเสียหายต่อเนื่องในอีก 3 อำเภอ  ประกอบด้วย อ.เฉลิมพระเกียรติ อ. โนนสูง  และ  อ.พิมาย  ซึ่งสถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งทางจังหวัดได้แจ้งให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนแล้ว

หนุ่ม 42 เฮจับ "ปลาจระเข้" ได้

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บริเวณหน้าสรรพากรภาค 9 ถนนสุรนารายณ์ กม.3 ต.บ้านเก่า อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งมีน้ำท่วมสูงและระดับน้ำได้ลดลงบ้างเล็กน้อย มีชาวบ้านออกมาหาดักจับปลาเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่านายสุรพล บอกโพธิ์ วัย 42 ปี  จับปลาปากจระเข้ หรือปลาจระเข้ หรือปลาเอลิเกเตอร์ตัวเขื่องหนักกว่า 5 กก. สงสัยจะมีคนเลี้ยงไว้แล้วเกิดน้ำท่วมก่อนจะหลุดออกมาจากบ่อเลี้ยง  ตนจะนำไปเลี้ยงไว้ก่อนจะนำไปมอบให้ทางประมงจังหวัดนครราชสีมาดูแลต่อไปหลังน้ำลดแล้ว

เจอศพหนุ่ม 19 เหยื่อน้ำท่วมล่าสุด

เช้าวันที่ 20 ต.ค. พ.ต.ท.เชื้อ  สุขเศรษฐ  สารวัตรเวร สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีศพลอยน้ำมาติดบริเวณลำห้วยน้อย  รุดไปตรวจสอบพบศพนายเสกสิทธิ์ พนันชัย อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 ถนนนิเวศน์รัตน์ ในเขตเทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ ซึ่งออกไปหาปลากลางทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วมและพลัดตกน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากหายไปเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่  นํ้าจากแม่น้ำชีได้ไหลทะลักมาจาก  จ.ชัยภูมิ เอ่อล้นบึงบัวใหญ่ทำให้ถนนสายบัวใหญ่-โนนตาเถร  มีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร  รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปมาได้ โดยเฉพาะตำบลบัวใหญ่รวม 14 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 1-3 เมตร

ปล่อยน้ำเขื่อนถล่มซ้ำเขต อ.สีคิ้ว

ต่อมาเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ได้มีประกาศจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย อ.สีคิ้ว แจ้งให้ศูนย์วิทยุตำรวจ สภ.สีคิ้ว และ สภ.สูงเนิน เร่งกระจายข่าวให้ชาวบ้านทราบว่าสำนักงานชลประทานลำตะคองมีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำส่วนเกินความจุออกจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคอง จึงให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามที่ลุ่ม หรือริมลำตะคอง รีบเก็บสิ่งของขนย้ายไปอยู่บนพื้นที่สูงโดยด่วน ขณะเดียวกัน กระแสน้ำที่ไหลออกทางประตูระบายน้ำของเขื่อนลำตะคองผ่าน ต.คลองไผ่ ต.ลาดบัวขาว ได้เอ่อล้นเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองสีคิ้ว เป็นเหตุให้ถนนมิตรภาพบริเวณหน้า ธ.ก.ส.สาขาสีคิ้ว มีระดับน้ำสูงขึ้นกว่า 50 ซม. จนรถเล็กไม่สามารถจะวิ่งผ่านได้ ส่วนน้ำในลำตะคองได้เพิ่มปริมาณสูงขึ้นจนล้นฝั่ง เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในที่ลุ่มกระทั่งบ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

ระดมล่าเพิ่มจระเข้สีคิ้วแต่ไร้วี่แวว

ส่วนความคืบหน้าการไล่ล่าจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์มเลี้ยงของชาวบ้านสุมทุม ต.หนองบัวน้อย อ.สีคิ้ว นำโดยนายสวัสดิ์ ยะสูงเนิน นายก อบต. และนายประภาส เหินจันทึก กำนัน ต.หนองบัวน้อย ได้จัดอาสาสมัครออกติดตามไล่ล่าจระเข้ทั้งวันและคืน นอกจากนั้นยังจัดเวรยามคอยสอดส่องตามผิวน้ำทั่วทั้งหมู่บ้าน นำไก่สดเป็นๆไปผูกไว้ตามแหล่งเหมาะสมที่จระเข้จะอาศัยอยู่ เพื่อล่อให้จระเข้ปรากฏกาย ซึ่งจะง่ายต่อการจับ โดยนายมงคล แดนงูเหลือม ผู้ใหญ่บ้านสุมทุม เผยว่า จระเข้ที่หนีออกจากฟาร์มมีกี่ตัวไม่รู้ แต่ที่ชาวบ้านเห็นชัดเจนคือ 4 ตัว และจับได้แล้ว 3 ตัว ตัวที่ 3 ถูกจับตาย ซึ่งมีความยาวเพียงแค่ 2 เมตรเศษ ไม่ใช่ตัวที่ชาวบ้าน รวมทั้งตนเองเห็นอย่างแน่นอน เพราะตัวที่เห็นมันมีขนาดใหญ่กว่านี้มากคือมีความยาวประมาณ 4-5 เมตร นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าที่มองไม่เห็นและหนีไปกับสายน้ำได้จะมีอีกกี่ตัว เพราะเท่าที่ออกสำรวจพื้นที่ พบว่าในป่าข้าวมีรอยเดินของจระเข้ขนาดใหญ่จนต้นข้าวล้มเตียนเป็นทางยาวกว้างถึง 1 เมตรเศษ และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าหลุดออกมาจากฟาร์มของใคร

"ชัยภูมิ" ท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. เขื่อนลำปะทาวไม่สามารถรับน้ำที่ล้นสันเขื่อนได้ จึงระบายน้ำออกจากเขื่อนทำให้ถนนเกือบทุกสายในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ถนนบางสายถูกน้ำท่วมสูงถึง 1.50 ม. เช่น ถนนหฤทัย บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล  ถนนนนทนาคร  ถนนชัยประสิทธิ์  ร้านค้าในตลาดสดถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองชัยภูมิ ต้องย้ายพ่อค้าแม่ค้าออกจากตลาดสดไปขายที่บริเวณถนนคนเดิน ถนนสนามบิน ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ แทน ส่วนโรงพยาบาลชัยภูมิถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร รถไม่สามารถเข้าไปรับ-ส่งผู้ป่วยได้ ต้องลำเลียงผ่านทางสะพานไม้ที่ทำไว้ชั่วคราว ถือว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ทั้งนี้ นายจรินทร์ จักกะพาก ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการ เช่น ขนส่งจังหวัด เทศบาลเมืองชัยภูมิ นำรถขนาดใหญ่ออกไปรับประชาชนที่ต้องการเดินทางไปซื้อเครื่องใช้และอาหารตามถนนสายต่างๆแล้ว

รพ.ชัยภูมิย้ายตรวจนอกสถานที่

นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผอ.รพ.ชัยภูมิ เผยว่า น้ำเริ่มไหลพ้นคันกั้นน้ำเข้าท่วมบริเวณโรงพยาบาล ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ทำคันกั้นน้ำให้สูงขึ้นและเร่งสูบน้ำออก พร้อมขนย้ายเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ ยาต่างๆ ขึ้นไปที่ชั้น 2 และเตรียมย้ายผู้ป่วยที่นอนที่หอผู้ป่วยชั้นล่างประมาณ 550 คน ทั้งนี้ ยังเปิดตรวจรักษาผู้ป่วยนอกตลอด 24 ชม. แต่การเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลยากลำบาก ระดับน้ำบริเวณทางเข้าโรงพยาบาลสูงกว่า 1 เมตร จึงประสานขอเรือท้องแบนบริการรับส่งผู้ป่วย และเพิ่มจุดบริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกอีก 3 จุด คือที่เทศบาลเมืองชัยภูมิ บริการ 24 ชม. ที่จุดหน้ากรมทางหลวง และปั๊มเอสโซ่ ทางไปอำเภอบ้านเขว้า เปิดบริการ 08.00-16.30 น.

ผวจ.ขอนแก่นนั่งเรือตรวจน้ำท่วม

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 ต.ค. นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผวจ.ขอนแก่น และคณะ นั่งรถจีเอ็มซีของทหารค่าย ร.8 พัน 2 ไปยังบ้านท่าเดื่อ หมู่ 6 ต.ไชยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ตรวจสภาพน้ำท่วม จากนั้นได้นั่งเรือเล็กนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน พบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 102 ครัวเรือน ส่วนน้ำที่ท่วมพื้นที่ขณะนี้เกิดจากฝนตกหนักตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับเขื่อนจุฬาภรณ์ เร่งระบายน้ำลงลำน้ำเชิญ ทำให้น้ำล้นทะลักท่วมหมู่บ้าน

นครสวรรค์ยังอ่วม 15 อำเภอ

ที่ จ.นครสวรรค์ ได้ประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วทั้งจังหวัด 15 อำเภอ รวม 88 ตำบล 654 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 29,148 ครัวเรือน 74,196 คน ถนนเสียหาย 192 สาย ฝาย 12 แห่ง บ่อปลา 156 บ่อ พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 163,083 ไร่ เบื้องต้นจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือถุงยังชีพ 24,748 ชุด ยารักษาโรค 3,252 ชุด น้ำดื่ม 34,038 ขวด สนับสนุนเรือท้องแบน เรือพาย 36 ลำ เครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง รถสุขาเคลื่อนที่ 1 คัน รถบรรทุก 1 คัน โดยอำเภอที่ถูกน้ำท่วมหนัก อาทิ อ.ตาคลี มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ต.ตาคลี ต.ลาดทิพรส ต.สร้อยทอง ต.ช่องแค ต.จันเสน ระดับน้ำยังสูงอยู่เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำออกคลองชลประทานได้ อ.ท่าตะโก มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 ตำบล ได้แก่ ต.ทำนบ ต.หัวถนน ต.ท่าตะโก ต.พนมเศษ ต.วังมหากร ต.สายลำโพง ต.หนองหลวง ระดับน้ำยังสูงเกือบ 1 เมตร ด้านการคมนาคม แขวงการทางนครสวรรค์ที่ 2 ดำเนินการซ่อมแซมคอสะพานที่ชำรุดบนทางหลวงหมายเลข 11 อินทร์บุรี-เขาทราย ช่วง อ.ตากฟ้า-อ.ไพศาลี พร้อมติดตั้งสะพานแบริ่งเสร็จแล้ว

เจาะอ่างเก็บน้ำระบายทิ้งก่อนพัง

ส่วน จ.ลำปาง อ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง งบประมาณ 300 ล้านบาท ตั้งอยู่ในเขตบ้านสันขี้เหล็ก หมู่ 10 ต.แม่พริก อ.แม่พริก เข้าขั้นวิกฤติเจอฝนตกหนัก ต้องเจาะปล่อยน้ำในอ่างที่มีมากกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ทิ้งก่อนสันเขื่อนจะพัง นายไกรวิทย์ ปัญญาชัย นายก อบต.แม่พริก กล่าวว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำผาวิ่งชู้ทำท่าจะรับน้ำป่าที่ไหลมาลงในอ่างมากกว่า 10 ล้านลูกบาศก์เมตรไม่ไหว กระทั่งตอนบ่ายวันเดียวกันนี้ ผู้รับเหมาจึงตัดสินใจเจาะน้ำออกข้างสันเขื่อนกว้างประมาณ 5 เมตร เพื่อระบายน้ำทิ้งก่อนที่สันเขื่อนจะรับน้ำไม่ไหว ทำให้ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลแม่พริก และอีก 3 หมู่บ้านของ ต.แม่พริก ถูกน้ำไหลเข้าท่วมระดับสูงถึง 1 เมตร พื้นที่การเกษตรกว่า 1,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหาย ส่วนเครื่องใช้ตามบ้านเรือนไม่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากเตรียมตัวเก็บให้พ้นจากระดับน้ำแล้ว ตลอดทั้งวันได้ระดม จนท.กู้ภัย เตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือชาวบ้านตลอด 24 ชม. แต่สถานการณ์คลี่คลายไปบ้างแล้ว เนื่องจากน้ำในอ่างได้ไหลออกจนเกือบหมด ขณะนี้เหลือเพียงน้ำจากแม่น้ำวังที่หนุนเอ่อล้นขึ้นมาเท่านั้น

ตากท่วม-เขื่อนภูมิพลยังไม่เต็ม

ส่วนที่ จ.ตาก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดฝนตกหนักมากว่า 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาดอยโล้น ต.ทุ่งกระเชาะ อ.บ้านตาก จ.ตาก ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นวงกว้าง  ระดับน้ำประมาณ 50-80 ซม. จนถึงขณะนี้ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยนายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก นางรัชนี ลอยฟ้า นายกเหล่ากาชาด จ.ตาก พร้อมคณะ นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บ้านตาก แล้ว ส่วนระดับน้ำในเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ซึ่งมีความจุอ่างกักเก็บน้ำ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำกักเก็บ 7,310 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 54.7 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ยังสามารถรับน้ำได้ 6,152 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 45.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ต.ค. มีน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนมากเป็นประวัติการณ์คือ 160 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ไม่มีการระบายน้ำออก เพราะเกรงจะไปกระทบกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา

"เมืองกล้วยไข่" ท่วมหนัก 2 อภ.

วันเดียวกันที่ จ.กำแพงเพชร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำป่าจากเทือกเขาสนามเพียง ยังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่เขตอำเภอโกสัมพีนครอย่างต่อเนื่อง ถนนพหลโยธิน บริเวณ ม.5 ต.ลานดอกไม้ตก อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร เกิดน้ำป่าไหลท่วมพื้นผิวจราจร ระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ส่วนพื้นที่หมู่ 1, 2, 3 และ 9 ตำบลเพชรชมพูอ.โกสัมพีนคร ก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน ด้านนายปรีชา บุญแมะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 20 ตำบลโกสัมพีนคร กล่าวว่า น้ำป่าไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00น. ตนรีบประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ลูกบ้านทราบ แต่ เนื่องจากน้ำมาเร็วมาก ลูกบ้านส่วนใหญ่ขนย้ายข้าวของไม่ทันถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมู่บ้าน มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถอีต๊อก เครื่องมือทางการเกษตร รวมไปถึงสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ถูกนำป่าพัดพาหายไปจำนวนมาก ระดับน้ำในบ้านของชาวบ้านบางหลังสูงกว่า 1 เมตร ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านรวมไปถึงข้าวสารจมอยู่ใต้น้ำ ต้องอาศัยญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่นอกพื้นที่หุงข้าวและทำอาหารมาส่ง เป็นน้ำป่าที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ขณะเดียวกันน้ำป่าก็ไหลบ่าเข้าท่วม 22 หมู่บ้าน ในตำบลนาบ่อคำ อ.คลองลานด้วย ทางจังหวัดอยู่ระหว่างเข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว

"น้องไบเบิล" ร่วมรับบริจาคช่วย

ช่วงสายวันที่ 20 ต.ค. พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พร้อมด้วย ด.ช.ภูผา รัตนรุ่งเรืองชัย หรือน้องไบเบิล เด็กยอดกตัญญู และนายธนาทร รัตนรุ่งเรืองชัย บิดา ได้ร่วมกันตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยตั้งตู้รับบริจาคเงินและสิ่งของไว้ให้กับชาวเมืองสองแควที่มีความประสงค์จะสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ บนศาลาการเปรียญวัดราชบูรณะ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งพระครูสิทธิธรรมวิภัช เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวทราบว่า ผู้ประสบอุทกภัยอยู่ในหลายจังหวัดขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจึงอยากตั้งกองทุนเพื่อให้การช่วยเหลือ แม้จะได้เงินไม่ มากมายอะไรแต่ก็เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยทั้งประเทศ ทางด้านน้องไบเบิลกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "อยากช่วยคนที่ได้รับความเดือดร้อนที่ถูกน้ำท่วมทุกคน อีกอย่างบุญกุศลที่ทำครั้งนี้จะได้อุทิศให้กับแม่ที่ไปอยู่บนสรวงสวรรค์ แม่จะได้มีความสุขมากๆ และขอเชิญชวนคนไทยร่วมกันบริจาคเงินมากๆเพื่อช่วยคนที่ถูกน้ำท่วมด้วยกันครับ"

สธ.เตือนระวัง "ตาแดง-ติดเชื้อ"

นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา เผยถึงโรคติดต่อที่มากับน้ำท่วมว่า ขอให้ประชาชนระวังเรื่องการจมน้ำ อันตรายจากไฟฟ้า สัตว์มีพิษ น้ำกัดเท้า และแผลเปื่อยติดเชื้อ นอกจากนี้ ในช่วงน้ำเริ่มลดลงอาจมีการระบาดของโรคตาแดงได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งแพร่กระจายมากับน้ำที่สกปรกท่วมขัง โดยเชื้อจะติดมากับนิ้วมือและเข้าสู่ตาโดยการขยี้ สำหรับการป้องกันขอให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กๆอย่าลงเล่นน้ำที่ท่วมขัง ใช้น้ำสะอาดล้างหน้า หากน้ำสกปรกเข้าตาควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด ไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยตาแดง และให้ล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดบ่อยๆ หากมีอาการเจ็บตา ตาแดง มีขี้ตามาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขัง ห้ามถ่ายอุจจาระหรือทิ้งขยะลงน้ำเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้น้ำสกปรกเสี่ยงเกิดโรคระบาดได้ง่าย นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เช่น ไทฟอยด์ อหิวาตกโรค รวมทั้งโรคตาแดงด้วย

ศธ.แจก "สุขาลอยน้ำ" 60 หลัง

ด้าน น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังร่วมกับผู้บริหารระดับสูงสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในสังกัด สอศ.ที่ถูกน้ำท่วมใน จ.นครราชสีมาว่าได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 5 แสนบาท แก่สถานศึกษาในสังกัดที่ได้รับความเสียหายจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ นอกจากนี้ ยังได้มอบถุงยังชีพแก่ครู บุคลากร นักเรียน และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้ปัญหาที่เดือดร้อนที่สุดคือไม่มีห้องสุขา จึงมอบหมายให้สถานศึกษาในสังกัด สอศ. ผลิตสุขาลอยน้ำ เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่  ซึ่งได้มอบไปแล้วจำนวน  30  หลัง ในจุดที่มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน และในวันที่ 21 ต.ค.นี้ จะมีการมอบสุขาลอยน้ำเพิ่มอีก 60 หลัง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้รับมอบที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาลพบุรี

สธ.ให้ผู้ป่วยน้ำท่วมรักษาฟรี

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมผู้ป่วยใน รพ.มหาราชนครราชสีมาว่า ได้ประสานไปยังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย และมีอาการเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่ได้ทุกแห่งฟรี โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ถือเป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นห่วงเรื่องของโรคระบาด ได้สั่งให้ทีมแพทย์เคลื่อนที่ออกไปให้ความรู้และคำแนะนำกับประชาชนที่ประสบภัยให้ระวังใน 3 โรคระบาด คือ 1.โรคทางเดินอาหาร เช่นอุจจาระร่วง 2.โรคทางเดินหายใจ เช่นไข้หวัด 3.โรคอื่นๆ เช่นตาแดง ฉี่หนู น้ำกัดเท้า เบื้องต้นประชาชนต้องดูแลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณศีรษะ คอ และหน้าอก ส่วนผู้ที่สัมผัสน้ำต้องสวมรองเท้าบูทยางเพื่อป้องกันผิวสัมผัสกับเชื้อโรค สำหรับผู้ป่วยหนักที่รักษาในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานั้น ล่าสุดทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เติมออกซิเจนเหลวเพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยหนักกว่า 100 รายแล้ว สามารถใช้งานได้มากกว่า 15 วัน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้ายไป รพ.อื่นแล้ว

นายกฯฟังสรุปน้ำท่วม 17 จว.

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 20 ต.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมใน  17  จังหวัดของศูนย์บัญชาการสาธารณภัย โดยมีนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  รอต้อนรับ  จากนั้นนายอภิสิทธิ์ได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมและการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางวีดิโอคอนเฟอเรนซ์จาก ผวจ.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่รุนแรง ประกอบด้วย จ.สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ชัยภูมิ สุพรรณบุรี และปราจีนบุรี ทั้งนี้ได้มีการเสนอแนวทางแก้ปัญหาอุปสรรคการทำงาน อาทิ นายกฯเห็นด้วยที่จะลดขั้นตอนการใช้ระเบียบต่างๆจากจังหวัดตรงไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องผ่าน ปภ. ปัญหาขาดแคลนเรือท้องแบนที่ทั่วประเทศมีเพียง 800 ลำ รวมทั้งขอให้พิจารณาจ่ายค่าตอบแทนของอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ที่อาสาสมัครทำงานช่วยเหลือประชาชน เป็นต้น โดยใช้เวลาหารือประมาณ 45 นาที

เร่งฟื้นฟู-ช่วยเหลือหลังน้ำลด

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า  มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนักหลายวัน และการประสานงานบูรณาการระหว่างหน่วยงานเรียบร้อยหรือไม่ หากระดับน้ำไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ถ้าจำเป็นหากจะมีการขยายหรือยกระดับการบูรณาการทำงานแก้ปัญหา ก็ขอให้ ปภ.อย่าได้ลังเลให้ยกระดับปัญหาได้ทันที สำหรับการฟื้นฟูหลังน้ำลด หน่วยงานต่างๆที่ดำเนินการได้ก็ให้ดำเนินการไป ส่วนเรื่องสาธารณสุขนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ได้รายงานที่ประชุม ครม.ในเรื่องการเตรียมยาและหน่วยบริการต่างๆแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้าความจำเป็นเร่งด่วนคือ เรื่องการดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน  แต่เรื่องการสำรวจความเสียหายในการช่วยเหลือ ครม.ได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจได้ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ทั้ง  2  ทาง  ทั้งที่ผู้อยู่ในโครงการประกันรายได้และผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยตรง

เหยื่ออุทกภัยสังเวยแล้ว 11 ศพ

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยล่าสุดมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 17 จังหวัด 101 อำเภอ 557 ตำบล 3,973 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 11 ราย ได้แก่ จ.นครราชสีมา 3 ราย จ.ลพบุรี 2 ราย และ จ.บุรีรัมย์ 4 ราย โดยพื้นที่ที่ยังประสบภัยในขณะนี้คือ จ.ระยอง ตราด สระแก้ว นครราชสีมา ลพบุรี นครสวรรค์ ชัยภูมิ สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก สุพรรณบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ขอนแก่น และ จ.ตาก นอกจากนี้ ภาวะฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเส้นทางสายต่างๆรวม 12 สาย แบ่งเป็น จ.นครราชสีมา 7 สาย ลพบุรี 2 สาย จ.สระแก้ว ชัยภูมิ และนครสวรรค์จังหวัดละ 1 สาย ประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24  ชั่วโมง

กรมชลฯปล่อยเรือสุขาช่วยน้ำท่วม

วันเดียวกัน ที่ท่าเทียบเรือกรมชลประทาน ย่านสามเสน นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยเรือสุขาพัฒนา 3 ลำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งอันเนื่องมาจากน้ำทะเลหนุนสูง และน้ำเหนือไหลหลาก ทั้งนี้ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้อนุมัติเงิน 1.5 ล้านบาท ซ่อมแซมเรือสุขาพัฒนา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน 1,050,000 บาท นำเรือเก่าขนาด 45 ตัน มาดัดแปลงเป็นสุขาเคลื่อนที่ จำนวน 3 ลำ ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมริมน้ำเจ้าพระยาตั้งแต่เมื่อปี 2538 โดยเรือทั้ง 3 ลำมีการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลตามมาตรฐานก่อนปล่อยน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ

เผยเขื่อน 10 แห่งวิกฤติน้ำทะลัก

นายธีระกล่าวว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ ในวันที่ 19 ต.ค.53 มีปริมาตรน้ำในอ่างทั้งหมด 52,492 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างเก็บน้ำทั้งหมด น้อยกว่าเมื่อปี 52 จำนวน 5,271 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถเก็บน้ำได้อีก 21,063 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางในทั่วประเทศที่มีความจุน้ำเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ มีอยู่ 17 แห่ง ในส่วนนี้มีอ่างเก็บน้ำที่เต็มเกินร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วอยู่ประมาณ 10 แห่ง คือ ภาคเหนือ เขื่อนกิ่วคอหมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง ภาคกลาง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำทับเสลา อ่างเก็บน้ำกระเสียว ภาคตะวันออก เขื่อนหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำประแสร์

24-26 ต.ค. คนกรุงเจอน้ำท่วม

นายธีระกล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณ 930 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อรวมกับน้ำท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ปริมาณ 1,185 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อรวมกับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ อ.บางไทร รวม 2,948 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกทั้งในวันที่ 24-26 ต.ค.นี้ น้ำทะเลจะเริ่มหนุนสูงสุด และส่งผลกระทบให้พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเกิดน้ำท่วมขังได้ ทางกรมชลประทานอยู่ระหว่างเร่งลดระดับน้ำ และระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด โดยจะมีการประชุมประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

เผย กทม.รับน้ำเหนือได้อีกแค่ 1 ม.

เมื่อช่วงสายวันที่ 20 ต.ค. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจการเรียงกระสอบทรายริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ และตรวจแนวก่อสร้างพนังป้องกันน้ำท่วมริมคลองบางกอกน้อย บริเวณชุมชนสันติชนสงเคราะห์ โดยนายพรเทพกล่าวว่า ล่าสุด กรมชลประทานรายงานว่า ได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และเขื่อนพระราม 6 รวม 3,655 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และจากการตรวจวัดปริมาณน้ำในช่วงเช้ามีความสูงประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากแนวป้องกันน้ำท่วมที่มีอยู่สามารถรับน้ำได้ที่ระดับความสูงประมาณ 2.5 เมตรจากระดับน้ำทะเล ยังสามารถรับเพิ่มได้อีก 1 เมตร ในส่วนของชุมชนจุดเสี่ยงที่อยู่นอกแนวเขื่อนกั้นน้ำของ กทม. ขณะนี้ได้นำกระสอบทรายกว่า 2 แสนใบมาวางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราวที่ความสูง 2.5 เมตรเช่นเดียวกัน พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงต่างๆด้วย นอกจากนี้ได้เตรียมเวชภัณฑ์ ยา และสถานที่พักชั่วคราวบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนหากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ

จับตาน้ำทะเลหนุน 23-27 ต.ค.

นายสัญญา ชีนิมิต ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า สำหรับการรับมือน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.นั้น ขณะนี้มี 3 น้ำมาเจอกัน ได้แก่ น้ำเหนือหลาก น้ำทะเลหนุน และน้ำฝนที่ตกลงมา ทั้งนี้ กทม.ได้ปิดประตูน้ำทั้งหมด 214 แห่ง เพื่อไม่ให้น้ำจากแม่น้ำไหลเข้าไปในคลองย่อยต่างๆ และเตรียมพร้อมสถานีสูบน้ำ 157 แห่งในการสูบน้ำออกจากพื้นที่ริมเจ้าพระยาทั้งหมด ส่วนการป้องกันน้ำเอ่อนั้นจะมีแนวเขื่อนสูง 2.5 เมตร ความยาว 77 กิโลเมตร ส่วนที่ยังไม่มีแนวเขื่อนได้เรียงแนวกระสอบทรายไว้พร้อมแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างวันที่ 23-27 ต.ค.นี้ จะต้องเฝ้าระวังน้ำทะเลที่จะหนุนสูงอีกครั้ง โดยเฉพาะวันที่ 26-27 ต.ค.ที่หนุนสูงที่สุด คาดว่าฐานน้ำจะอยู่ที่ระดับ 1.17 เมตร ซึ่งคงต้องจับตาเป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมารับมอบและร่วมปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ รถสุขาเคลื่อนที่ รถไฟฟ้าส่องสว่าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่และถุงยังชีพ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน จ.นครราชสีมา ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.ด้วย

สรุป รพ.โคราชเสียหาย 13 แห่ง

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ตั้งศูนย์อำนวยการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ส่งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดที่ศาลากลางตลอด  24  ชั่วโมง  รวมทั้งสั่งการให้ทุกพื้นที่ที่มีน้ำท่วมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชน  ตั้งแต่วันที่ 18-19 ต.ค. ออกให้บริการ 26 จุด รวม 34 ครั้ง มีผู้ป่วย 2,993 ราย ส่วนใหญ่เป็นโรคไข้หวัด จำนวน 1,473 ราย รองลงมาน้ำกัดเท้า 451 ราย มีอาการเครียด นอนไม่หลับ 350 ราย ได้มอบยาสามัญประจำบ้านให้ผู้ประสบภัยแล้ว 13,300  ชุด  พร้อมด้วยคลอรีนและรองเท้าบูต  1,150  คู่ ในส่วนสถานบริการและสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหาย และผลกระทบรวม 13 แห่ง มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 252,120,000 บาท ทั้งนี้ ได้ให้สถานพยาบาลในสังกัดเร่งสำรวจผู้ป่วยเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่ต้องรับยาต่อเนื่อง หรือผู้ป่วยไตวายเรื้อรังต้องล้างไตเป็นประจำ หากมีปัญหาน้ำท่วมออกมารับยาตามนัดไม่ได้ ให้จัดทีมออกไปให้บริการตรวจและส่งยาถึงบ้าน หรือรับตัวออกมาที่สถานพยาบาล โดยผู้ป่วยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

พศ.ช่วย 885 วัดถูกน้ำท่วมหนัก

นายนพรัตน์  เบญจวัฒนานันท์  ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้รายงานความเสียหายของวัดต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) โดยจากการสำรวจ ข้อมูลของกองพุทธศาสนสถาน ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.-20 ต.ค. พบว่า มีวัดที่ได้รับผลกระทบ 885 วัด จาก 23 จังหวัด และทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ได้จัดส่งเครื่องอุปโภคบริโภค ผ้าไตร ยาตำราหลวง เพื่อถวายพระภิกษุสามเณรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในเบื้องต้นแล้ว 12 จังหวัด และหลังจากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจะมีการสำรวจความเสียหายของอาคารต่างๆภายในวัด  เพื่อรายงานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ ทางวัดสระเกศ ยังร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จัดตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในเทศกาลออกพรรษา ในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 07.00 น. โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน เพื่อนำข้าวสาร อาหารแห้ง ไปช่วยเหลือวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯยังตั้งศูนย์รับบริจาคที่อาคารหอสมุดพระพุทธศาสนามหาสิรินาถ พุทธมณฑล จ.นครปฐม

"ไทยรัฐ" มอบ 5 ล. ช่วยภัยน้ำท่วม

และเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องชาวไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งร้ายแรง คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล ประธานกรรมการ บริษัทวัชรพล จำกัด เจ้าของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จะบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านบาท สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้นายวัชร วัชรพล ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นตัวแทนมอบให้แก่ศาสตราภิชาน นพ.พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต

"พระองค์โสม" เสด็จพื้นที่ปักธงชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 21 ต.ค. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พร้อมประทานถุงยังชีพของมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และประกอบอาหารประทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่เฝ้ารับเสด็จด้วย

"ผู้การแต้ม" พาลูกน้องรับบริจาค

ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ต.ค. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง "สายสมร" ร่วมตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ภายใต้ชื่อโครงการ  "ทำดีไม่ต้องรอเดี๋ยว"  บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  เนื่องจากมีการแสดงดนตรีเปิดหมวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสร้างสีสัน มีประชาชนให้ความสนใจร่วมบริจาคเงินจนเต็มตู้รับบริจาคทั้ง 4 ตู้อย่างรวดเร็วได้เงินวันแรก 211,000 บาท โดย ผบก.น.1 เผยว่าจะจัดกิจกรรมรับบริจาคไปจนถึงวันที่ 22 ต.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าคนจะหมด สำหรับเงินรับบริจาคจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็วที่สุด

"ป๋าเบิร์ด" นำนักร้องร่วมซับน้ำตา

ด้านวงการบันเทิงก็ตื่นตัวไม่แพ้กัน โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นักร้องซุปเปอร์สตาร์ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ นำทีมศิลปินค่ายแกรมมี่ ประกอบด้วย คริสติน่า อากีล่าร์, เจมส์ บีโอวาย, โรส-ศิรินทิพย์ หาญประดิษฐ์, อะตอม-กฤชกนก นักร้องวงดรีมออน และพนักงานแกรมมี่ช่วยกันรวบรวมข้าวของที่ได้รับบริจาค อาทิ ข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารแห้ง เสื้อผ้า เครื่องใช้จำเป็น จากนั้นนักร้องสาวคริสติน่า ก็ได้นำทีมนักร้องและพนักงานแกรมมี่นำสิ่งของบริจาคดังกล่าวไปมอบผ่านทางช่อง 9 อสมท ซึ่งเปิดเป็นศูนย์รับบริจาคน้ำท่วม เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป โดยพี่เบิร์ดกล่าวว่า เห็นภาพข่าวความเดือดร้อนและเสียหายของผู้ประสบอุทกภัยทางสื่อแล้วก็ตกใจและเศร้าใจ เพราะครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากกว่าทุกครั้ง เนื่องจากเกิดขึ้นแบบฉับพลันและรุนแรงจนทุกคนตั้งรับไม่ทัน ตนก็ได้แต่ส่งแรงใจไป และขอให้ทุกคนผ่านเรื่องร้ายๆนี้ไปได้ และก็ขอฝากไปถึงคนไทยทุกคนใครที่พอมีแรงเงินพอช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ก็ช่วยกันคนละไม้ละมือ จะมากหรือน้อยก็ไม่เป็นไร และอยากวิงวอนว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำส่ง  ช่วยไปให้ถึงมือผู้เดือดร้อนโดยเร็วและทั่วถึงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น